อยากเริ่มต้นทำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ควรรู้อะไรบ้าง?
ในบรรดาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง “ครีมกันแดด” ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่หลายแบรนด์ผลิตออกวางจำหน่ายกัน อาจจะเพราะอากาศร้อนมากของประเทศไทย จึงมีความต้องการของผู้บริโภคค่อนข้างสูงนั่นเอง แต่ทั้งนี้ขั้นตอนที่จะทำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดนั้น ก็มีรายละเอียดที่ต้องศึกษามากกว่าสกินแคร์ทั่วไป เช่น ค่า SPF ชนิดของสารกันแดด ผลข้างเคียงต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าหากไม่ทำการบ้านศึกษาให้ดี ทั้งเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์ครีมและเรื่องโรงงาน อาจทำให้เกิดปัญหายุ่งเหยิงตามมาพร้อมกับครีมด้วย ดังนั้นวันนี้ทาง MPC Lab ของเราจึงอยากทุกคนพามาดูเรื่องราวน่ารู้ เกี่ยวกับเจ้าครีมกันแดด รวมทั้งเทคนิคเบื้องต้นในการเลือกโรงงานผู้ให้บริการผลิตที่น่าเชื่อถือได้มาฝากกันค่ะ
คุณสมบัติของครีมกันแดดที่ดี
ครีมกันแดดต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานที่เป็นมาตรฐานเหมือนกัน คือ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด แต่ครีมกันแดดที่ดีจะต้องมีคุณสมบิตอื่น ๆ นอกเหนือจากการกันแดดได้ด้วย ดังนี้
- สามารถกรองได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ถึงแม้รังสีสองตัวนี้จะมาจากแสงแดดเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในด้านการทำร้ายผิว คือ
-
- รังสี UVA เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นมากกว่า UVB และมีมากถึง 95% ในแสงแดด มีพลังทำลายล้างสูงมาก เพราะสามารถเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกได้ จึงไปกดภูมิคุ้มกันของผิวหนังไม่ให้ปกป้องตัวเองได้ ดังนั้นรังสีชนิดนี้จึงเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังนั่นเอง นอกจากนี้ยังไปทำลายความคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น จึงเกิดริ้วรอยได้ง่าย ทำให้ดูแก่กว่าวัย
- รังสี UVB เป็นรังสีส่วนน้อย และไม่สามารถทะลุลงผิวหนังชั้นลึกได้ แต่ก็ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นได้ เป็นสาเหตุของอาการผิวไหม้แดดนั่นเอง ทั้งนี้รังสีประเภทนี้ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้เช่นเดียวกัน
- ซึมซาบลงสู่ผิวได้ดี ต้องไม่ใช่แค่เคลือบอยู่บนผิวเท่านั้น เพราะหากครีมซึมได้ดี จะมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวมากกว่า อีกทั้งยังช่วยให้ครีมไม่หลุดลอกได้ง่ายระหว่างวันอีกด้วย
- หลุดยาก อย่างน้อยต้องทนต่อเหงื่อ เพราะบางคนต้องเดินทางหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากไม่ทนเหงื่อ ครีมหลุดง่าย ก็จะไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้
- เนื้อครีมเกาะติดผิวได้ดี เพราะจะได้ไม่ต้องทาซ้ำบ่อย ไม่ทำให้ผิวหมองคล้ำ และที่สำคัญคือ ไม่เปลืองครีม
- อ่อนโยนต่อผิว ถึงแม้ครีมกันแดดจะเป็นครีมที่มีโอกาสอุดตันค่อนข้างสูง แต่ก็ยังจำเป็นต้องใช้ ดังนั้นจึงต้องพยายามทำให้อ่อนโยนกับผิวมากที่สุด เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองหรือแพ้ครีม และยังลดโอกาสในการเป็นสิวอุดตันด้วย
ชนิดของสารกันแดด
ก่อนใช้บริการรับผลิตครีมกันแดดควรรู้ว่า ครีมกันแดดนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามชนิดของสารกันแดด ซึ่งจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ผู้ที่สนใจจะทำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดจำเป็นต้องศึกษาเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้ทำครีมออกมาได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนี้
- Physical Sunscreen จะเป็นสารกันแดดแบบ Non Chemical เช่น Zinc oxide หรือ Titanium dioxide เป็นต้น สารกันแดดประเภทนี้จะสามารถทาแล้วออกไปเผชิญกับแสงแดดได้ทันที ใช้หลักการปกป้องผิวโดยการสะท้อนรังสียูวีออกไป มีโอกาสการอุดตันและระคายเคืองน้อยมาก ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ยาวนานมากกว่า
- Chemical Sunscreen ต้องทาก่อนออกแดด 10-15 นาทีเพื่อให้สารกันแดดทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยปกป้องผิวโดยการดูดซับรังสียูวีแล้วนำมาทำปฏิกิริยาให้ไม่เกิดอันตรายต่อผิว มีโอกาสอุดตันและระคายเคืองสูงกว่า ต้องทาซ้ำบ่อยครั้งเพราะสารกันแดดจะสลายตัวเมื่อทำปฏิกิริยากับแสงแดดไปแล้ว
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ครีมกันแดด
เราได้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดกันไปพอสมควรแล้ว ต่อไปมาดู 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ครีมกันแดดกันค่ะ
- หาสูตรครีมกันแดดที่ต้องการ โดยศึกษาจากกลุ่มลูกค้าก่อนว่าความต้องการของลูกค้าคืออะไร จะช่วยให้กำหนดขอบเขตคุณลักษณะของครีมกันแดดที่เราต้องการจะผลิตได้ ซึ่งสูตรครีมกันแดดนี้ จะเลือกสูตรกลางของทางโรงงานเครื่องสำอางก็ได้ จะพัฒนาสูตรใหม่หรือจะแกะสูตรของครีมกันแดดที่มีอยู่แล้วก็ได้เช่นกัน
- ออกแบบบรรจุภัณฑ์ โดยบรรจุภัณฑ์ยอดนิยมสำหรับครีมกันแดด คือ แบบหลอด ด้วยเหตุผลที่ว่าใช้ง่าย พกพาง่าย สะดวก ไม่หกเลอะเทอะ หรือจะใช้บรรจุภัณฑ์แบบอื่น ๆ ก็ได้ตามต้องการ แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะใช้บรรจุภัณฑ์แบบหลอด ก็ควรระบุว่าขอพลาสติกหนา ๆ เพราะจะได้ไม่เจอปัญหาน้ำครีมกันแดดซึมจากหลอด
- ส่งวิเคราะห์ค่า SPF และ PA เพื่อที่จะได้มีเอกสารไว้ยืนยันกับลูกค้าว่า ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้จริง
- นำสินค้าไปขึ้นทะเบียน หลังจากได้เอกสารการวิเคราะห์ค่า SPF และ PA มาแล้ว ก็นำคริมกันแดดของเราไปขึ้นทะเบียนได้เลย ส่วนช่วงเวลาที่กำลังรอขึ้นทะเบียนอยู่นั้น เราแนะนำให้ดำเนินการออกแบบฉลากไปด้วย เมื่อสินค้าขึ้นทะเบียนเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถนำข้อมูลสินค้ามาใส่ลงในฉลากได้เลย
- ผลิตสินค้า หลังจากมีสูตรสินค้า บรรจุภัณฑ์ ฉลาก และขึ้นทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาสู่ขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือ การผลิตสินค้า นั่นเอง ระหว่างรอโรงงานรับผลิตครีมกันแดดผลิตสินค้าให้ เราก็ได้เวลาเริ่มต้นวางแผนการตลาด ทำรีวิว คิดโปรโมชั่น ยิงโฆษณา หรือหาพรีเซนเตอร์มาเตรียมไว้ เมื่อได้รับสินค้าแล้ว ทำการตลาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็วางจำหน่ายได้เลย ทั้งนี้โรงงานส่วนใหญ่มีบริการรับให้คำปรึกษาด้านการตลาดและทำการตลาดให้ด้วย ดังนั้นลูกค้าอย่าลืมถามทางโรงงานด้วยนะคะ จะได้ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จากการจ้างนักการตลาดภายนอกอีกด้วยค่ะ
การเลือกโรงงานผลิต
สำหรับการเลือกผู้ให้บริการรับผลิตเครื่องสำอางที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการทำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดนั้น สามารถพิจารณาได้จากหลักเกณฑ์ 4 ข้อใหญ่ ๆ ดังนี้
- โรงงานมีมาตรฐาน ตรงส่วนนี้ไม่ว่าจะ ครีมกันแดด สกินแคร์อื่น ๆ รวมไปถึงอาหารเสริมต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องเลือกโรงงานที่มีมาตรฐาน โดยสามารถดูได้จากการรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ รวมไปถึงรางวัลการันตีคุณภาพ เป็นต้น ทั้งนี้การมาตรฐานที่โรงงานจะต้องผ่านการรับรองคือ การรับรองจากองค์การอาหารและยา, ISO และ GMP เพราะมันจะเป็นเครื่องยืนยันเบื้องต้นได้ว่า โรงงานเหล่านี้มีมาตรฐานมากพอ ที่จะผลิตสินค้าออกมาได้อย่างมีคุณภาพ
- ให้บริการแบบ One Stop Service โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนให้คำปรึกษา ทั้งเรื่องสูตรครีม การขอเอกสารการรับรอง ไปจนถึงการทำตลาด, มีบริการขอขึ้นทะเบียน, รับผลิต รับบรรจุ ออกแบบบรรจุภัณฑ์และฉลาก เป็นต้น เพราะบริการในลักษณะนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามาก ๆ คุณจะสามารถพูดคุยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ตลอด ตั้งแต่ในขั้นตอนเริ่มต้น จนกระทั่งสินค้าออกวางจำหน่าย แต่ทั้งนี้ก็ควรมีบริการแบบไม่ใช่ One Stop Service ไว้เป็นทางเลือกให้ลูกค้าด้วย
- ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำงาน ควรเลือกโรงงานครีมที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง เพราะว่าจะสามารถมั่นใจได้ว่า สินค้าที่ได้รับนั้นมีคุณภาพ มีความหลากหลาย น่าสนใจและแตกต่างจากสินค้าทั่วไปในท้องตลาด ช่วยสร้างเด่นให้กับสินค้าในแบรนด์ของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ควรมีทีมนักวิจัยที่มีความสามารถ เพื่อจะได้พัฒนาสูตรสินค้าให้ได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
- มีบริการส่งตรวจวิเคราะห์ค่า SPF และ PA จะได้มีเอกสารยืนยันประสิทธิภาพการกันแดดภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น
และนี่ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้น ที่ผู้ที่สนใจในธุรกิจครีมกันแดดควรจะศึกษาและทำความเข้าใจกันค่ะ จะเห็นได้ว่าการทำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดนั้น มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก ๆ นอกจากจะต้องใส่ใจเรื่องข้อมูลส่วนนี้แล้ว ยังต้องใส่ใจในการเลือกผู้ให้บริการผลิตด้วยเช่นกัน สุดท้ายนี้ทางทีมงงาน MPC Lab หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังสนใจที่จะสร้างแบรนด์ครีมกันแดดนะคะ ขอให้ปัง ขอให้รวยกันทุกคนเลยค่า